วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จิรัฐติกาลป์ แสงสุข

อุโบสถศีล...ในพระพุทธศาสนาเถรวาท...
*****อานิสงส์..เมื่อครั้น..พุทธกาล*****                                                      
คำอธิบาย: C:\Documents and Settings\Administrator\My Documents\My Pictures\04.jpg
***********************************************************************





                     






โดย….. จิรัฐติกาลป์   แสงสุข

                                                                                         นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา มมร.
                                                                                           
                                                                                                ลำดับที่  ๐๒  รหัสนักศึกษา  ๕๖๓๐๑๕๐๑๓๒๐๐๒

***********************************************************************
บทนำ
                ความเดิมเมื่อครั้นสมัยพุทธกาล บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกว่าไว้ ด้วยอานิสงส์ของการรักษาอุโบสถศีลนั้น ผู้เขียนได้สาธยายถึงอานุภาพที่บังเกิดขึ้นของอานิสงส์นั้น นับว่ามีมากมายหลายประการกล่าวไว้ให้ติดตาม ครั้งนี้ผู้เขียนของหยิบยกมาเพียงเรื่องหนี่ง เพื่อประกอบการเรียนวิชา..เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา (รหัสวิชา พ.๑๒๐๔) พระอาจารย์ผู้สอนโดยพระมหาบุญไทย ปมโน, ดร.

                พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา ข้อที่ ๑๕ หน้าที่ ๑๕ – ๑๖
                อานิสงส์ของการรักษาอุโบสถศีลนั้น ด้วยอานิสงส์ของผลบุญที่สามารถส่งผลทำให้ผู้รักษาได้ไปเกิดในอุตตราวิมาน ดังที่ว่าพระมหาโมคคัลลานะถามว่า  “แน่ะนางเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม มีรัศมีสว่างไสวฉายแสงไปทั่วทุกทิศเหมือนกับดาวประกายพฤกษ์ เพราะทำบุญอะไรไว้ ท่านจึงมีผิวพรรณงามถึงอย่างนี้ เพราะทำบุญอะไรไว้ อิฐผลจึงสำเร็จแก่ท่านในวิมานนี้ และโภคทรัพย์อันเป็นที่รักแห่งใจทุกสิ่งทุกอย่าง จึงเกิดขึ้นแก่ท่าน ดูกร นางเทพธิดาผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ อาตมาขอถามท่าน ครั้งท่านยังเป็นมนุษย์อยู่ได้ทำบุญสิ่งใดไว้ ท่านจึงมีอานุภาพอันรุ่งเรืองถึงอย่างนี้ อนึ่งรัศมีกายของท่านสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ เพราะทำบุญอะไรไว้?
                นางเทพธิดานั้น อันพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว มีใจยินดีได้พยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่ถูกซักถามว่า เมื่อครั้งดิฉันยังปกครองบ้านเรือนอยู่ ดิฉันไม่มีความริษยา ไม่มีความตระหนี่ ไม่เย่อหยิ่ง ไม่ตีเสมอ ไม่โกรธ ไม่ประพฤตินอกใจสามี ไม่ประมาทในวันอุโบสถและวันปกติ เข้าจำอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ วัน ๑๕ ค่ำ และวัน ๘ ค่ำแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ ระมัดระวังในนิจศีลและอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัด ตลอดกาลทุกเมื่อ ขณะที่อยู่ในวิมาน ดิฉันมีความสำรวมจำแนกทาน ยินดีในสิกขาบททั้ง ๕ คือ งดเว้นจากปาณาติบาตอย่างเด็ดขาด ๑ งดเว้นจากความเป็นขโมยอย่างห่างไกล ๑ ไม่ประพฤติล่วงประเวณี ๑ ระมัดระวังในการพูดเท็จ ๑ สำรวมการดื่มน้ำเมาอย่างเด็ดขาด ๑ ดิฉันเป็นผู้ฉลาดในอริยสัจธรรม เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุเปรื่องยศ ดิฉันนั้นผู้ยิ่งยศ โดยยศได้ก็เพราะศีลของตนเอง ดิฉันได้เสวยผลแห่งบุญของตนอยู่ จึงสุขกายสุขใจปราศจากโรค เพราะการกระทำและการประพฤติอย่างนั้น ดิฉันจึงมีผิวพรรณถึงเช่นนี้ อิฐผลสำเร็จแก่ดิฉันในวิมานนี้ได้ ก็เพราะการกระทำและการประพฤติอย่างนั้น โภคทรัพย์อันเป็นที่รักแห่งใจทุกสิ่งทุกอย่าง เกิดแก่ดิฉันก็เพราะการกระทำอย่างนั้น ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ ดิฉันขอบอกแก่ท่าน ครั้งดิฉันยังเป็นมนุษย์อยู่ได้บำเพ็ญกิจและประพฤติสิ่งใดไว้ เพราะการกระทำและความประพฤตินั้นดิฉันจึงมีอานุภาพอย่างรุ่งโรจน์ถึงเช่นนี้ อนึ่ง รัศมีการของดิฉันสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ ก็เพราะการกระทำและความประพฤตินั้น
               นางเทพธิดาได้กราบและได้กราบเรียนต่อไปว่า ขอท่านได้กรุณานำไปกราบทูลแด่พระผู้มีพระภาคตามคำของดิฉันด้วยเถิดว่า นางอุตตราอุบาสิกา ขอถวายบังคมพระบาทยุคลของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า  ข้าแต่ท่านผู้เจริญ  ข้อที่พระผู้มีพระภาคพึงทรงพยากรณ์ดิฉัน   ในสามัญผลอย่างใดอย่างหนี่งนั้น ไม่น่าอัศจรรย์เลย แต่ข้อที่พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ดิฉันในสกทาคามิผลนั้นน่าอัศจรรย์”[๑]
สรุปได้ว่าอานิสงส์ของการรักษาอุโบสถศีลนั้น มีพลังอานุภาพของผลบุญที่สามารถทำให้ผู้รักษาอุโบสถศีลนั้น ได้ไปเกิดในสวรรค์ และมีโภคทรัพย์สมบัติมากมาย ผิวพรรณวรรณผ่องใสเรืองรอง ผู้เขียนจึงมีความคิดว่า พวกเราทั้งหลายที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมินี้ ควรหันหน้ากันเข้าวัดรักษาอุโบสถศีลกันในวันพระ ประการที่ ๑ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมของการรักษาอุโบสถศีลกันไว้ ประการที่ ๒ กุศลผลบุญของการรักษาอุโบสถศีลนั้น ยังมีอานิสงส์ส่งผลอีกมากมายให้แก่ผู้รักษานั้น และประการสุดท้าย คือ เป็นการสร้างความดี เพื่อศาสนา เพื่อสังคม เพื่อครอบครัว และเพื่อตนเอง

***********************************************************************

คำอธิบาย: C:\Documents and Settings\Administrator\My Documents\My Pictures\04.jpg



                                                                       บรรณานุกรม
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ(ภาษาไทย) พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา  เล่มที่ ๑๘  ข้อที่ ๑๕  หน้า ๑๕-๑๖.


[๑] ขุททกนิกาย. ๑๘/๑๕/๑๕-๑๖.


3 ความคิดเห็น:

  1. กราบนมัสการ...พระอาจารย์บุญไทย..ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

    ตอบลบ
  2. เนื้อหาดีมาก เขียนต่ออีกสักเรื่องเป็นไร

    ตอบลบ
  3. เรียน..ผู้พัน..ที่เคาร

    ตอบลบ